Agentic AI vs AI Agent ต่างกันอย่างไร? พร้อมตัวอย่างระบบ AI รับออเดอร์-ส่งออเดอร์ได้เอง!


บทนำ (Introduction):

ในยุคที่ AI กำลังกลายเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของธุรกิจ การเข้าใจความแตกต่างระหว่าง AI Agent และ Agentic AI กลายเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะกับธุรกิจที่ต้องการระบบอัตโนมัติอย่าง การรับออเดอร์ ส่งออเดอร์ หรือดูแลลูกค้าแบบเรียลไทม์

บทความนี้จะพาคุณเข้าใจคำสองคำนี้ พร้อมยกตัวอย่างธุรกิจที่ใช้ Agentic AI ได้จริง และอาจเปลี่ยนกระบวนการทำงานของคุณตลอดไป!


🤖 AI Agent คืออะไร?

AI Agent คือระบบอัตโนมัติที่สามารถทำหน้าที่บางอย่างแทนมนุษย์ เช่น

  • ตอบแชท
  • รับคำสั่ง
  • ส่งคำสั่งไปยังระบบอื่น เช่น ยิง API

📌 จุดเด่น: ทำงานได้เมื่อมี input จากผู้ใช้
📌 ข้อจำกัด: ขาดความยืดหยุ่น และมักต้องมีคนคอยสั่งงาน


🧠 Agentic AI คืออะไร?

Agentic AI เป็น AI ที่มี “ความสามารถในการวางแผน ตัดสินใจ และทำงานหลายขั้นตอน” โดยไม่ต้องมีคำสั่งทีละบรรทัด

  • สามารถกำหนดเป้าหมาย
  • ทำงานต่อเนื่อง
  • เรียนรู้จากผลลัพธ์
  • ใช้เครื่องมือ (tools) หลายอย่างได้ เช่น เช็ก stock, ส่ง order, แจ้งลูกค้า ฯลฯ

📌 จุดเด่น: อัตโนมัติเต็มรูปแบบ พร้อมแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้
📌 ตัวอย่าง: AutoGPT, LangChain Agent, AI ที่รวม OpenAI + Google Calendar + LINE API


🔁 เปรียบเทียบ: Agentic AI vs AI Agent

ด้านAI AgentAgentic AI
รับคำสั่งต้องมีคำสั่งเข้าใจ context และเริ่มเองได้
ความยืดหยุ่นจำกัดสูง
การวางแผนไม่มีมี (multi-step)
ความฉลาดทำตาม scriptมี reasoning, goal-oriented
ตัวอย่างChatbot ตอบคำถามAI วางแผนจัดตารางอัตโนมัติ

ตัวอย่างธุรกิจ: AI รับออเดอร์-ส่งออเดอร์อัตโนมัติ

✅ แบบ AI Agent:

  • ลูกค้าสั่ง “ลาเต้ 1 แก้ว”
  • Bot ตอบรับ → ยิง API ไปยังระบบร้าน

✅ แบบ Agentic AI:

  • ลูกค้าสั่ง “อยากกินกาแฟ”
  • AI:
    • แนะนำเมนู
    • เช็ก stock
    • ถามอัพเซลล์ “เพิ่มไข่มุกไหม?”
    • ส่ง order → ระบบร้าน
    • แจ้งเวลารอ
    • ถ้าแถวยาว → แนะนำร้านสาขาใกล้เคียง

ประสบการณ์แบบนี้คือความฉลาดเชิง agentic


📈 ธุรกิจไหนใช้ได้ทันที?

  • ร้านอาหาร → สั่ง/ส่งออเดอร์อัตโนมัติ
  • Online shop → เช็กของ แจ้งสถานะ ส่ง track
  • Call center → Agent ช่วยแก้ปัญหาให้แทนพนักงาน
  • โรงพยาบาล → จองคิว ตรวจสอบนัด แจ้งผลตรวจ

🔧 สรุป: ต้องเริ่มจากอะไร?

  • เริ่มจาก AI Agent ง่าย ๆ ก่อน (chatbot, voicebot)
  • แล้วค่อยต่อยอดเป็น Agentic AI เช่น
    • สร้าง memory
    • ใช้หลาย API เชื่อมโยงกัน
    • ตั้ง goal ให้ AI ทำงานต่อเนื่อง

✅ ปิดท้าย (CTA):

ถ้าคุณสนใจพัฒนา Agentic AI สำหรับธุรกิจ เช่น ระบบรับออเดอร์, ตัวช่วยฝ่ายขาย, หรือ AI ผู้ช่วยส่วนตัว
ติดต่อเราหรือสมัครเรียนหลักสูตร AI Agentic ได้เลยวันนี้!

สวัสดีชาวโลก – -‘

ยินดีต้อนรับสู่ WordPress นี่คือเรื่องแรกของคุณ แก้ไขหรือลบทิ้งไป แล้วมาเริ่มเขียนกัน!

00:00
Botnoi Voice Logo